ความดันโลหิตสูง ชะลอได้ด้วยการออกกำลังกาย!
- BELIV WELLNESS
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
เป็นภาวะที่ความดันเลือดในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติ ซึ่งในคนกลุ่มนี้จะ มีความดันโลหิตอยู่ในระดับสูงผิดปกติ คือมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท อาจไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต

ทำไมความดันโลหิตสูงถึงอันตราย?
- ไม่แสดงอาการ : คนที่ไม่มีอาการ จะมักตรวจพบเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนแล้ว เช่น อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
- ทำลายหลอดเลือด : ความดันโลหิตสูงจะไปทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เสี่ยงต่อการอุดตันหรือแตกได้
- เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนอื่นๆ : ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ โรคไตและโรคหลอดเลือดสมอง อาการที่แสดงออก คือ มีอาการปากเบี้ยว อ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก หรืออาจมีภาวะสมองเสื่อม ตา อาจเกิดความผิดปกติที่จอประสาทตา เป็นต้น
ความดันโลหิตสูงเกิดจากอะไร?
- กรรมพันธุ์: บุคคลที่มาจากครอบครัวที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมีความเสี่ยงที่จะเป็นกว่าคนทั่วไปคิดเป็นร้อยละ 30-60
- อายุ: ความดันโลหิตสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น จากการศึกษาพบว่าความดันตัวบนจะสูงขึ้นอัตราปีละ 0.5-1 มิลิเมตรปรอท การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีผลมากจากความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด
- ภาวะน้ำหนักเกิน: เนื่องจากการมีน้ำหนักมากร่างกายก็ยิ่งต้องการเลือดไปเลี้ยงออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น
- ดื่มแอลกอฮอลล์: ทำให้หลอดเลือดหดรัดตัวมากขึ้น หัวใจบีบตัวแรงขึ้น
- สูบบุหรี่: ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายหดตัว หัวใจเต้นแรงมากขึ้น
- ความเครียด: ขณะที่เครียด อาจทำให้ความดันโลหิตสูงกว่าปกติได้ถึง 30 มิลลิเมตรปรอท
- พฤติกรรมการกิน: รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง และไขมันสูง
- ไม่ออกกำลังกาย: ทำให้ผนังหลอดเลือดขาดการหยืดหยุ่นและขยายตัวได้ไม่ดี
หากเป็นความดันโลหิตสูง ควรออกกำลังกายอย่างไร ?

ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่ม
ก่อนเริ่มโปรแกรมออกกำลังกาย ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินว่าสามารถออกกำลังกายได้

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านออกกำลังกาย
ตรวจประเมินร่างกาย เพื่อนำไปวิเคราะห์ และออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม

ระยะเวลาและความหนักในการฝึก
ออกกำลังกายระดับเบาจนถึงระดับปานกลาง เป็นเวลา 30-60 นาทีต่อวัน 2-3 วัน/ สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นเพื่อผลลัพธ์ที่มากขึ้น

เลือกชนิดการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
ควรออกกำลังกายทั้งแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) และแบบใช้แรงต้าน (Resistance Exercise) เช่น เต้น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ สลับวันกับการยกดัมเบล วิดพื้น ใช้ยางยืด หรืออุปกรณ์เวทเทรนนิ่ง

วัดความดันก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกายเสมอ

ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การขาดน้ำอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

สังเกตอาการ
หากรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด เจ็บหน้าอก หรือเหนื่อยเกินไป ควรหยุดพักทันที

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนจัด
อากาศร้อนอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
เพื่อให้ระบายความร้อน และระบายเหงื่อได้ดี ป้องกันไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป
ข้อควรระวังขณะออกกำลังกายสำหรับความดันโลหิตสูง
- ความดันโลหิตมากกว่า 180/110 ปรอท ต้องทานยาก่อน
- อายุ มากกว่า 40 ในชาย 50 ในหญิง หากมีประวัติความเสี่ยงต่อโรคหัวใจอื่นๆ ก่อนออกกำลังกายอย่างค่อนข้างหนัก ควรพบแพทย์ และตรวจประเมินสมรรถภาพหัวใจก่อน
- ไม่ควรออกกำลังด้วยการเกร็งหรือท่าอะไรที่ต้องมีการเกร็งค้างมาก
- การออกกำลังกายด้วยมือ และกำแน่น อาจทำให้ความดันโลหิตและชีพจรขึ้นสูงกว่าขาและแบบเคลื่อนไหว
- ไม่ควรออกกำลังกาย ถ้าความดัน >200/115 มิลลิเมตรปรอท
- ยาต้านเบต้า จะทำให้ความดันโลหิตขณะออกกำลังกายลดลง
- ยาความดันที่เหลือตัวอื่นๆ อาจจะทำให้มีความดันโลหิตต่ำหลังออกกำลังกาย
โปรแกรมการออกกำลังกายที่ Beliv wellness สำหรับผู้เป็นความดันโลหิตสูง

คอร์สกายภาพบำบัดในน้ำ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และพัฒนาระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด

คอร์สออกกำลังกายในน้ำ และบนบกเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงโดยรวม และพัฒนาระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด
การออกกำลังกายเพื่อลดความดันโลหิตสูง
High knee clap
30 วินาที 3 เซ็ต
Step jack
30 วินาที 3 เซ็ต
High knee press
30 วินาที 3 เซ็ต